2020: A reminder of a weird year

Journal

​I’m just a dot in the plane, after all

  • พบว่าปัญหาของเราเล็กมากเมื่อเทียบกับปัญหาของโลก หรือบางครั้งปัญหาของเราก็พันผูกกับเพราะเราอยู่ในสังคมบริบทแบบนี้ วัฒนธรรมแบบนี้ ปีนี้เลยมีสมองและจิตใจสนใจการเมืองสังคมและคนอื่นๆ ในโลกมากขึ้น ก็ดีเหมือนกันเพราะชีวิตที่ผ่านคิดแต่เรื่องของตัวเองเป็นส่วนใหญ่ สุดท้ายถ้าคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่รอด ระบบมันไม่ฟังก์ชั่น มันก็คงต้องมากระทบเราสักวัน เราก็อยู่ในระบบมหภาคนี้ร่วมกัน it’s a interconnected world, baby

Don’t frame your life by your age, it’s more flexible in current dynamic world

  • เวลาคนบอกบอกว่าอายุเท่าไหร่ควรทำอะไร จริงๆ มนุษย์เป็นสิ่งที่ flexible มากๆ ต่อให้เราอายุ 40 ปี เราก็ควรจะกลับไปเรียนใหม่ได้ อาจเปลี่ยนอาชีพ เจอเส้นทางชีวิตใหม่ๆ ไม่ใช่ทุกคนที่ afford to try new option หยุดทำงานไปนานๆ เพื่อไปเริ่มใหม่ พอคนถามว่า 30 จะทำไร ก็ไม่แน่ใจต้องตอบว่าไร ก็แล้วแต่คนไหม ใครกำหนด
  • เพิ่งอ่านหนังสือ Lab Girl ผู้เขียนเล่าถึงแม่เธอเรียนไม่จบเพราะยากจนช่วงปี 1950s พอแม่เธอแต่งงาน มีลูก 4 คน ชีวิตหายไป 20 ปี พอชีวิตเริ่มกลับมานิ่งเข้าที่ แม่เธอก็กลับไปเรียนมหาลัยใหม่ในสาขาอักษรศาสตร์ เออมหาวิทยาลัยมันควรจะเปิดให้ทุกคนเรียนได้ถ้า meet qualification
  • เวลาคนตามหาคนรุ่นใหม่ไฟแรง จะนึกในใจว่า พี่ขา เตาหนูอุ่น เปิดปิดตามเวลา ไม่ลุกไหม้ เรื่องไวไม่แข่ง เบิร์นเอาต์อย่าหวังไม่ได้แดก เสร็จค่ะถ้าไทม์ไลน์สมเหตุสมผล ตรงเวลาแน่ ถ้าสัญญาไว้แล้ว คือใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ดึกไม่คุย แสงเช้าวันใหม่ค่อยว่ากัน อยากมีชีวิตอยู่ยาวๆ นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินยามแก่ ☀️

A Mundane steady year, with lots of time with myself

  • โอเค โดยรวมคุณภาพชีวิตปีนี้โอเคมาก ราบเรียบดี เรื่อยๆ กำลังดี จัดการได้ รู้สึกสงบจิตใจดี ไม่ค่อยมีตัวแปรในชีวิตให้หงุดหงิดใจเท่าไหร่ โกรธน้อยมากกกก เพราะวันๆ เจอคนน้อยมาก พอมาทำงานใน knowledge economy ใช้กายทิพย์ทำงานก็ไม่ต้องออกนอกบ้าน ชอบ work from home มากๆ
  • จัดการตารางชีวิตตัวเองได้ดี ไม่เหนื่อย ไม่ล้า นอน 7 ชั่วโมงทุกวัน อาจจะไม่ตื่นเต้นซู่ซ่าหัวใจเต้นมากนัก แต่สงบและสบายใจมาก ได้เรียนรู้งานในความยากระดับที่กำลังดี ไม่เครียดไปไม่ง่ายไป ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา และได้เรียนรู้เรื่องใหม่เยอะมากๆ สนุกดี 💪
  • พอมีเวลาอยู่กับตัวเองเยอะมากขึ้น ซึ่งก็เพลินดี สบายใจ หาไรทำไปได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกระจ่างใจเห็นแสงสว่างเห็นปลายทางอะไร พอหวงแหนชีวิตที่อยู่กับตัวเอง และตารางที่กำลังดี ก็ต้องยอมที่จะปฎิเสธสิ่งที่ไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจว่าเรามี capacity พอไหม

Thanks for sharing your lived experiences and your perspective

  • ขอบคุณทุกๆ คนที่มาแชร์ประสบการณ์ชีวิตให้ฟัง ชีวิตที่ผ่านมาเราอยู่ในโลกที่ไม่ได้ไปสัมผัสกับผู้อื่นเท่าไหร่ ทำให้เราระลึกได้บ่อยขึ้นว่าตัวเองเป็นน้องจุดน้อยในโลกที่ผวนผัน ชีวิตมีเร็วบ้างช้าบ้างสลับไป ปีนี้ ขยับไปสัมผัสคนที่ต่างจากเรา พอเขตแดนขยาย เราก็ตัวเล็กลง มีเรื่องที่ไม่รู้ ไม่เคยคิดถึงมาก่อน ค่อยๆ เข้าใจไป ไม่ต้องรีบพูดก็ได้ ❤️
  • เคยพูดไปแล้วและอยากพูดอีก ความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพ คือไม่ใช่การเห็นด้วยเหมือนกันไปหมดเสียทุกอย่าง แต่คือสายใยที่คอยดูแล ช่วยกันเช็คข้อมูลในวันที่ข่าวสารมีมา เราต้องช่วยกันฉลาดดดดดดดด และ educate กันและกันในความรู้ข้อมูลข่าวหลังไหลไม่หยุดยั้ง ❤️ การคุยกับคนที่ไม่เห็นด้วยกับเรานั้นมีคุณค่าและทดสอบ hypothesis ของเราได้ดีเลยแหละ

Sorry for my online profanity, well, I’m not that sorry, actually.

แม้จะดูเกรี้ยวกราดในออนไลน์ แต่ภายในใจก็คือเฉยๆ เรื่อยๆ ไร้ความรู้สึกเป็นส่วนใหญ่ 555 เอาจริง ไม่ค่อยตื่นเต้นกับอะไร จนคิดว่า เฮ้ย เราปกติไหมเนี่ย 5555 โอเค จริงๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี เรื่องที่เราสนใจก็ดูน่าเบื่อจนไม่รู้จะไปคุยกับใครดี แต่ก็ไม่ได้แสวงหาการคุยขนาดนั้น ขี้เกียจอธิบาย เลือกจะคุยประเด็นที่คนอื่นชวนคุยมากกว่า

เออพอเจอเพื่อนก็อยากฟังเขามากกว่า เพราะเจอคนไม่ค่อยบ่อย อยากรู้ว่าชีวิตคนอื่นเขาเจออะไรบ้าง ชอบเวลาคนอธิบายเรื่องที่เขารู้ให้เราฟัง ชอบเวลาไปกระทบกับเรื่องที่ไม่รู้ หรือได้เห็นมุมใหม่ๆ ที่อยู่กับตัวเองแล้วคิดไม่ได้ หรือไม่เคยรู้สึก

แต่ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพูดไปเรื่อยๆ ก็คือสามารถทำได้ถ้าสภาวะเหมาะสม สามารถ Monologue เรื่องใดใด ไปได้เรื่อยๆๆ เป็นหลายชั่วโมง เช่น ระหว่างขับรถเดินทาง ตกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำได้ไงเนี่ย

What I learned about myself 🙂

  • พบว่าตัวเองเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าเสี่ยงเท่าไหร่ ไม่ชอบเดา ไม่ชอบเซอร์ไพรส์ อะไรที่ไม่แน่ใจก็อาจจะเลือกช่างแม่งไปก่อน ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมค่อยตัดสินใจ ชอบเวลาคนบอกว่าเขาจะทำอะไร อยากให้ทำอะไร ขอให้ช่วยอะไร ต้องการอะไรจากเรา ใช้เวลาเท่าไหร่ สบายใจและจัดการง่ายกว่าเยอะเลย แต่ถ้าต้องอยู่สถานการณ์ที่มอบอำนาจให้คนอื่นนำแล้วก็จะเป็นผู้ตามได้สบายมาก 555 I love to let go of control sometimes
  • คิดเอาเองว่าตัวเรากลมกลืนกับโลก เนียนๆ ตลอดมา ไม่เคยรู้สึกว่ามีปัญหากับใคร หรือมีใครที่มีปัญหากับเรา หรือถ้ามีก็ไม่ได้แคร์มากนัก 555 เวลาผ่านไปที่เพื่อนจึงได้บอกว่า อีตอแหล มึงไม่เนียน เขาดูออกกันทั้งอำเภอ อ้าวหรอๆๆๆ 5555
  • ได้ฟังทอล์คของความชิทของคนในออฟฟิศ ทำให้รู้สึกว่า คนนเราเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์ที่สุดก็เมื่ออนุญาตให้ตัวเองไปพัวผันกับความยุ่งเหยิง ความไม่สมบูรณ์แบบอันน่ารำคาญใจ กล้าพาตัวไปอยู่ในจุดเปราะบางของความไม่รู้ การยอมรับให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ ยอมรับความอ่อนไหวโดยไม่ผลักไสความไม่แน่นอน
  • ทุกวันนี้พยายาม catch up ความเป็นมนุษย์แสนวุ่นวายผ่านเรื่องเล่าชีวิของคนอื่น เช่น ฟัง Dear Sugar ขอโทษในความขี้เกียจและการลงทุนที่แสนต่ำนี้ เป็นการยืมประสบการณ์เขามาประมวลผล รู้สึกว่าตัวเองใช้ strategy ตัดความรำคาญและความไม่แน่นอนในชีวิตออกไปเสมอ รู้สึกเป็นอีนางห่อ Bubble Wrap จนฝุ่นเกาะ เลยไม่ทุกข์และไม่สุข เฉยๆ ด้านชา 55
  • สันดานจริงๆ ก็คือเป็นอินโทรเวิร์ตที่เข้าสังคมได้พอประมาณ ทุกเช้าตื่นมา ถ้าต้องไปเจอคนอื่น แม้จะเจอกันบ่อยแค่ไหน ก็ยังตื่นเต้นนิดๆ อยู่ดี อยากมีร่างกายอันโปร่งใส เดินไปในโลกโดยไม่มีใครเห็น ไม่อยากเอาตัวเองไปผูกพันกับความวุ่นวายของความเป็นมนุษย์ 🥺

Sorry, I have no long plan just some fuzzy direction

  • สารภาพว่าไม่มีแผนตายตัวในชีวิตเท่าไหร่ ไม่เคยคิดมองชีวิตเป็นเส้นทางตรง บันได ภูเขา ขวากหนามต้องฝ่าไป คิดว่าเหมือนมาท่องเที่ยว สำรวจซ้ายขวาบนล่างตามใจ พอมองในมุม visitor ก็ไม่อยากเป็นเจ้าของอะไรให้พะวง ไม่ค่อยมีใจผูกพันอยากมีภาระ อาจจะเป็นชีวิตที่กระจัดกระจายมาก สนนู่นทีนี่ที แต่เพลินดีมั้ง 🙃
  • ข้อดีคือเราไม่ค่อยทุกข์เท่าไหร่ ข้อเสียก็คือเราไม่มีเลือดนักสู้ สิ่งใดใดในโลก มีก็ดี ไม่มีก็ได้ บางอย่างมันต้องใช้แรงใจแรงกายเข้มข้นถึงจะได้มา เราก็ไม่ค่อยอยากไปอยู่ในโซนนั้นเท่าไหร่ แค่นึกว่าต้องลงทุนกายใจก็เหนื่อยละ 555 เวลาเห็นคนเทหมดหน้าตักก็คือ ฉันต้อง support เขา ประทับใจเวลาคนอื่นเขามีความกล้าในแบบที่เราไม่มี 🧐

I’m not that sorry for all the profanity

🥺 สำหรับปีนี้ สิ่งที่อยากขอโทษคือ: ทุกคำที่เราด่ารัฐบาลไป ขอโทษจริงๆ ที่ยังด่าแรงไม่พอ หรือบางทีก็แบบไม่ลงรายละเอียดเพราะขี้เกียจ เปลืองสมอง ขอโทษที่มีปัญญาหาคำมาด่าแค่นี้ มีแรงอธิบายแค่นี้ ใครว่าไม่ปัญญาชน ไม่สันติ ไม่ปล่อยวางคืออีชิบหาย 555 สติปัญญาของทุกคนถูกใช้ไปเยอะมากแต่โดนเจือจางด้วยแก๊สนำ้ตาน้ำม่วงนำ้ฟ้าไปหมด หมดโควต้าสติปัญญา คำด่าอย่างเดียวเท่านั้นถึงจะสาสมความกากไร้คุณภาพ ขอบคุณทุกคนที่เหนื่อยกว่าเรา ด่าเก่งกว่าเรา อธิบายใดใดลงรายละเอียดอย่างตั้งใจ

⭐️ อยากให้มีการให้รางวัลคำด่าทางการเมืองแห่งปี จะจดจำไว้ประดับดวงใจ กราบสักการะเครื่องด่าของประชาชนทุกท่าน ขอให้ท่านเจริญเป็นแสงสว่างที่ไม่โดนอีหลุมดำแห่งอำนาจดูดหาย กราบบบบบบ

Skills I need

  • ฝึกงดใช้สมองกับเรื่องที่ไม่ควรใช้ อะไรที่ปรายตาไปมองแลวไม่คุ้มเวลาคิด เสียสติ เปลืองปัญญา อยากกดข้ามไปได้ ยิ่งประเมินได้ไวยิ่งดี พลังงานและจิตใจเรามีจำกัด ❤️
  • ฝึกทักษะการฟัง 👂 เวลาคนเล่าอะไรให้ฟัง ปรึกษาปัญหาต่างๆ เราจะต้องฝึกถามก่อนเสมอว่า ที่เขาพูดมานี้ อยากให้ฟังเฉยๆ อยากให้ช่วยคิด หรืออยากได้ suggestion คือบางทีเขาอยากแค่เล่าเฉยๆ แต่เราก็ไปหา solution ให้เขาแล้ว บางทีเขาแค่อยากได้ emotional validation ไม่ต้องคิดแทน

ถ้าใครสังเกตก็คือเอาคำที่พิมพ์ไปแล้วมาต่อๆ กัน เรียบเรียงใหม่ คือ ขี้เกียจถึงเบอร์นั้นแหละ ปีก่อนๆ ก็ประมาณนี้ไม่ได้มีอะไรมาก ☺️

ขอปิดปีนี้ไว้ด้วยคำพูดของ my imaginary daddystill resonates with me 🙂

มนุษย์ต้องการความหมาย ความเข้าใจ และคำอธิบาย การเคลื่อนไหว เดินทาง และหนีหาย ❤️

– Oliver Sacks [Hallucination]

Playlist to get ready for staying at home til the end of the world